💥💥จังหวัดกำแพงเพชร เขต.อำเภอคลองขลุงชาวบ้านร้องสื่อเบิกเงินฝากสถาบันการเงินไม่ได้รวมกว่า 20 ล้าน ไร้วี่แววได้เงินคืนวอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ สถานบันการเงินแจงขาดสภาพคล่องหลายปัจจัยคาดเคลียร์ปัญหาจบในวันที่31 มี.ค.68

กรุณาแชร์ต่อ

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 พ.ย.67 ชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 ต.ท่ามะเขือ และ ม.1 ต.หัวถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร กว่า 30 คน ที่เป็นสมาชิกเงินฝากของสหกรณ์การเกษตรคลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้รวมตัวเข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน หลังจากที่แต่ละรายได้นำเงินเข้าไปฝากและไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ โดยได้นำสมุดบัญชีเงินฝากของแต่ละรายมารวมกันมียอดเงินที่ไม่สามารถขอถอนได้รวมกว่า 20 ล้านบาท

โดยที่ผ่านมาได้พยายามขอถอนเงินแต่ถูกบ่ายเบี่ยงและให้ลงชื่อเพื่อต่อคิวถอนเงินแต่ก็ยังไม่ได้รับเงิน บางรายขอถอนเงินหลักเเสนบาท แต่พอถึงวันรับเงินกลับได้หลักหมื่นและพัรบาท โดยชาวบ้านบางรายนำเงินที่หามาทั้วชีวิตมาฝากไว้ตั้งแต่ ปี 2557 จนถึงปัจจุบันมียอดฝากกว่า 3.7 ล้านบาท ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะถอนเงินมาใช้ได้ ซึ่งทุกวันนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับป่วยเข้าโรงพยาบาลหลายรอบบางรายเกิดอาการเครียดจนซึมเศร้าและอยากฆ่าตัวตาย จนสุดท้ายไม่มีที่พึ่งจนต้องร้องสื่อถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือ

ขณะที่บางคนนำบัญชีเงินฝากของคนในครอบครัวที่ไม่สามารถขอเบิกเงินได้มาโชว์พบว่ามียอดรวมกว่า 5,874,000 บาท โดยก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะเบิกเงินได้เมื่อไหร่ นอกจากนี้ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าช่วงแรกตั้งแต่ปี 2557 ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกเงินฝากของสหกรณ์การเกษตรคลองขลุง จะได้ดอกเบี้ยร้อยละ 5.25 ต่อปี และต่อมาได้ปรับลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 3.50 บาท ต่อปี

โดยไม่ใช่เป็นการฝากเงินประจำและสามารถถอนเงินได้ตามปกติ ซึ่งก็มีสมาชิกอีกกลุ่มที่สามารถกู้เงินไปลงทุนทำการเกษตรและอาชีพอื่นๆได้และต้องเสียงดอกเบี้ยตามปกติของสถานบันการเงิน โดยทั้งหมดได้รวมตัวกันไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันดำเนินคดีไว้ที่ สภ.คลองขลุง แล้วเมื่อวันที่ 28 ต.ค.2567 โดยชาวบ้านบางส่วนได้ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้สหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดให้การช่วยเหลือหาทางออก

สัมภาษณ์ “นางฉ่ำ อยู่โต” อายุ 71 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.5 ต.ท่ามะเขือ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร) เล่าว่า “ ตั้งแต่สหกรณ์การเกษตรคลองขลุงก่อตั้งขึ้นมา ตนก็นำเงินไปฝากต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันรวมยอดกว่า 3.8 ล้านบาท และช่วงหลังตนได้ไปขอถอนเงินสดแต่ได้รับคำตอบว่าไม่มีเงินให้ถอนและไม่มีกำหนดที่จะได้เงิน ตนต้องการถอนเงินไปซื้อที่ดินทำนา แต่พอมาเจอแบบนี้ก็ทุกข์หนักเข้าไปอีก ซึ่งก็ได้ไปแจ้งความกับตำรวจและตั้งทนายฟ้องร้อง

โดยแนวทางแก้ไขเยียวยาผู้ที่เดือดร้อนที่จะเร่งดำเนินการคือ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ธกส. หน่วยงานภาครัฐ กรมส่งเสริมสหกรณ์ (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) และทีมกฎหมายเร่งติดตามหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระ และลูกหนี้ตามคำพิพากษา พร้อมประสานกองทุนฟื้นฟุฯ และ ธกส.เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน และรองบสนับสนุนจากภาครัฐ โดยคาดว่าจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ภายใน 31 มี.ค.68 หรือเร็วกว่านั้น สัมภาษณ์ “นายอดิศักดิ์ ฟักแฟง” ผู้จัดการใหญ่ สหกรณ์การเกษตรคลองขลุง กล่าวว่า “ปัญหาจากการถอนเงินของสมาชิกที่ฝากเงินและไม่สามารถถอนเงินได้ในขณะนี้นั้น เกิดจากปัญหาที่ทางสหกรณ์ไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนมาหมุนเวียนได้เพียงพอ และเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และพิษทางการเมือง พร้อมทั้งสมาชิกที่เป็นหนี้กว่า 70% ไม่ยอมใช้หนี้เงินกู้คืน ซึ่งสหกรณ์ไม่มีเงินใช้หนี้เจ้าหนี้ซึ่งเจ้าหนี้คือธนาคาร ธกส. ที่เราเป็นหนี้กว่า 500 ล้านบาท ที่ไม่ได้จ่ายคืน ในส่วนของกองทุนฟื้นฟูที่เข้ามาจัดการหนี้ให้กับ ธกส. ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน ซึ่งเมื่อเราไม่ได้เงินกู้จาก ธกส. มาแก้ไขสภาพคล่อง เราจึงตั้งกองทุนสำรองขึ้นมา จนขาดทุนสะสมสมาชิกไม่ได้เงินปันผล ทำใหัขาดศรัทธาจนทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเมื่อเราออกติดตามหนี้สินจากสมาชิกที่ค้างชำระ จนทำให้มีปัญหาการฟ้องร้องกับสมาชิกมากขึ้น จนได้เงินเข้ามาจัดการได้บ้าง และปรับลดค่าใช้จ่ายบางส่วนลง เรายังมีทรัพย์สินที่เป็นที่ดินกว่า 10,000 ไร่ เราพร้อมจะระบายทรัพย์สินที่มีอยู่เพื่อนำไปใช้หนี้เงินฝากที่สมาชิกนำมาฝากและมีปัญหาตอนนี้เร่งด่วนคาดว่าไม่เกิน 40 ล้าน ส่วนที่ทยอยถอนไปก็ประมาณ 300 กว่าล้าน ซึ่งก็ได้มีการสื่อสารกับสมาชิกเพื่อปรับแผนคืนเงินฝากไม่ให้ส่งผลกระทบ โดยจากนี้จะเร่งเปิดการเจรจาเพื่อหาทางออกกับทุกฝ่ายให้เร็วที่สุด และจะมีความชัดเจนภายใน 31 มีนาคม 2568 อย่างแน่นอน ซึ่งวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 นี้ จะพูดคุยกับ 4 หน่วยงาน เพื่อหาแหล่งเงินทุนและการตรวจสอบสะสางความมั่นคงโปร่งใส โดยตนยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากการทุจริต ยืนยันว่าเงินทุกบาททุกสตางค์จะต้องคืนไปยังสมาชิกและดำเนินไปตามแผนอย่างแน่นอน ในหลักซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน


กรุณาแชร์ต่อ

You may have missed