🔴⭕️แมลงอีนูนเป็นเหตุ!!คนออกหาจับแมลงอีนูนเกิดแย่งพื้นที่ดักตาข่าย เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันจนเข้าทำร้ายกันด้วยอาวุธมีดและปืน จึงถูกแทงถูกฟันหลายแผลเสียชีวิต

กรุณาแชร์ต่อ

เมื่อเวลา 21.00 น.คืนวันที่ 14 พ.ค 67 “ร.ต.อ.ปรัชญา” ทางบ้านฆ้อง พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร รับแจ้งมีเหตุคนแทงกันที่ ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนก่อเหตุยืนมอบตัวกับตำรวจสายตรวจ ต.นาบ่อคำ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กำแพงเพชร และ พ.ต.อ.กรวิทย์ อ่อนทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร พร้อมกับเดินทางไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวนสถานีตำรวจเมืองกำแพงเพชร

ที่เกิดเหตุอยู่หมู่ 22 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้านสร้อยสุวรรณ โดยต้องขับรถไปตามถนนดินกลางทุ่งนา จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าละเมาะและไร่มันสำประหลังอีกกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งที่เกิดเหตุพบรอยเลือดเป็นกองๆอยู่ตามพื้นและไม้ 1 ท่อน ซึ่งที่เกิดเหตุมีตาข่ายสำหรับดักจับแมงอีนูนกางขึงอยู่ โดย พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร ได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งนางนิล สายทอง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 22 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นแม่ของ นายกฤษณะ สายทอง อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุแทง นายวิโรจน์ มาทำมา อายุ 42 อยู่บ้านเลขที่ 38หมู่ 22 ต.นาบ่อคำ อ.เมือง จ.กำแพงเพชรเสียชีวิต

โดยก่อนเกิดเหตุทั้งผู้ก่อเหตุและผู้ตายได้มากางตาข่ายดักจับแมงอีนูนกัน โดยก่อนที่จะเกิดเหตุนางนิลเล่าว่า ตนมาขึงดักตาข่ายไว้เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และได้เก็บตาข่ายไปแล้วเหลือแต่ไม้ที่ปักไว้ ต่อมาวันนี้ตนกลับมาดักใหม่อีกครั้งก็เห็นตาข่ายของคนอื่นมาขึงอยู่กับหลักของตน ตนเห็นว่าตาข่ายพันกันจึงเก็บตาข่ายที่ดักไว้ม้วนกับหลัก ทาง ด้านนายวิโรจน์ ผู้ตายได้มาโวยวายหาว่าเก็บจาข่ายของตน ซึ่งนางนิลได้อธิบายว่าเห็นตาข่ายพันกันจึงเก็บม้วนไว้ให้ สร้างความไม่พอใจให้กับนายวิโรจน์อย่างมากพร้อมกับส่งเสียงโวยวายปรี่เข้ามาจะหาเรื่อง ขณะนั้นนายกฤษณะ ลูกชายของตนนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่ใกล้ๆ จากนั้นทั้ง 2 คน จึงทะเลาะวาทกันโดยนางนิลอ้างว่าฝ่ายผู้ตายมีอาวุธปืนมาตบหน้านายกฤษณะ พร้อมทั้งใช้ไม้ติหลายครั้ง ตนพยายามห้ามแล้วก็ไม่ฟัง นายกฤษณะจึงใช้อาวุธมีดสปาต้าแทงนายวิโรจน์จนล้มลง คนที่เห็นเหตุการณ์จึงพยามยามจะนำตัวนายวิโรจน์ขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อไปส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชร แต่ปรากฏว่าไปไม่ได้จึงต้องวิ่งไปตามหารถกระบะในหมู่บ้านให้มารับตัวไปส่งโรงพยาบาล

ทางด้าน นายกฤษณะ หลังจากที่เกิดเหตุแล้วได้นำมีดเล่มที่ใช้แทงเดินทางไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำตำบลนาบ่อคำ พร้อมทั้งแจ้งเหตุว่าแทงคนพร้อมกับพาตำรวจไปดูที่เกิดเหตุ โดยนายกฤษณธรับสารภาพกับ พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กำแพงเพชรว่า ก่อเกิดเหตุตนมาดับแมงอีนูนกับแม่ และเกิดมีปากเสียงกับผู้ตาย โดยผู้ตายได้ด่าแม่ของตน และเข้ามาทำร้ายตนก่อนโดยใช้อาวุธตบที่ใบหน้า พร้อมทั้งใช้ไม้ตีตนหลายครั้ง นายกฤษณะยังบอกว่าผู้ตายได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงมาที่ตนจำนวน 3 ครั้ง แต่กระสุนไม่ลั่น ตนเห็นดังนั้นจึงชักอาวุธมีดที่ติดตัวมาแทงไปที่ผู้ตาย 1 ครั้ง จากนั้นก็เข้ามอบตัวกับตำรวจ

ซึ่งในเบื้องทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์รายอื่น จึงยังไม่แน่ใจว่าเป็นไปตามที่นายกฤษณะกับแม่บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ซึ่งตำรวจยังต้องสอบสวนในรายละเอียดต่อไปอีก ส่วนผู้ตายจากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่าถูกแทงเข้าที่ชายโครงซ้าย 1 แห่ง ถูกฟันที่หน้าผาก 2 และที่ศีรษะด้านหลังอีก 2 แห่ง รวมทั้งหมด 5 แผล ล้วนแต่เป็นแผลฉกรรจ์ทั้งหมด นอกนั้นยังพบที่ลำคอมีรอยคล้ายถูกเชือกรัดจนเขียวช้ำรอบคอด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวล จ.พิษณุโลก ส่วนอาวุธปีนที่นายกฤษณะกับนางนิลอ้างถึงในที่เกิดเหตุยังหาไม่พบ

“พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร” รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กำแพงเพชรสรุปว่า สาเหตุเพราะมาแย่งที่ขึงตาข่ายดักจับแมงอีนูนกัน เนื่องจากช่วงนี้ฝนเริ่มตกใหม่ๆ แมงอีนูนจะบินออกมาจากที่ซ่อนเพื่อออกมาจับคู่ผสมพันธ์กัน พอบินออกมาจากรูที่ซ่อนก็จะมาชนติดกับตาข่ายที่ชาวบ้านดักไว้ ซึ่งชาวบ้านจะรวบรวมนำไปขายต่อให้แม่ค้าที่มารับซื้อตัวละ 2-3 บาท ที่เหลือบางส่วนชาวบ้านก็จะเก็บไว้กินเอง


กรุณาแชร์ต่อ

You may have missed