🌷ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต!!พ่อค้าขายไอครีมส่งลูก3คนเรียนจบรับราชการ

ลุงวัย 65 ปีเร่ขายไอศครีมติดรูปลูก 3 คนมีทั้งตำรวจ ทนายความ ทหารสารวัตร เผยขายส่งเสียลูกเรียนได้ดีทุกคน หายเหนื่อยภูมิใจในตัวลูก สุดทึ่งหน้าบ้านก็ติดภาพถ่าย อุปกรณ์ของใช้ลูกวางเป็นสัดส่วน บ่งบอกสัญลักษณ์ของอาชีพลูกทั้ง 3

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2567 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดโขมงหัก ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร หลังทราบจากชาวบ้านว่า มีพ่อค้าขายไอศครีมแบรนด์ดังรายหนึ่ง เร่ขายไอศครีมไปยังพื้นที่ต่างๆของจังหวัดกำแพงเพชร โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลเทพนคร และตำบลใกล้เคียงติดภาพถ่ายไว้บนรถ มีทั้งรูปภาพชายแต่งเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านล่างมีตัวหนังสือระบุกำกับว่า “ หัวหน้าชุดปฏิบัติการไล่ล่า”ถัดมาเป็นรูปภาพผู้หญิง ซึ่งสวมเสื้อสีขาวด้านล่างมีตัวหนังสือระบุกำกับว่า“ ทนายความอิสระ” และอีกหนึ่งภาพ เป็นภาพชายแต่งกายชุดทหารบกสวมใส่หมวกหม้อตาล ด้านล่างของภาพมีตัวหนังสือ ระบุกำกับว่า“ เฉพาะกิจหน่วยเคลื่อนที่เร็ว“ รวมไปถึงภาพอิริยาบถต่างๆ ซึ่งรูปภาพนี้ได้ถูกติดเอาไว้บนรถ3 ล้อเครื่องขายไอศครีมของพ่อค้ารายดังกล่าว


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่าพ่อค้าขายไอศครีมรายนี้คือนายสุเทพ ผลเศรษฐี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219 ม.3 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ส่วนรูปภาพที่ติดอยู่บนรถขายไอศครีม ก็คือลูกชายและลูกสาวซึ่งมีทั้งหมด 3 คน ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงนายสุเทพได้เล่าเรื่องราวของตนเองให้ฟังอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกล่าวอธิบาย ภาพถ่ายที่แขวนไว้บนรถขายไอศครีมว่า ภาพแรกชายที่แต่งเครื่องแบบตำรวจ คือส.ต.ท.เฉลิมพล ผลเศรษฐี อายุ 30 ปี สังกัดอยู่ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 จ.ตาก ถัดมาภาพที่ 2 คือ นางสาวธนศิริ ผลเศษรฐี อายุิ25 ปีอาชีพทนายความอิสระ ซึ่งปัจจุบันปฏิบัติงานอยู่ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ส่วนภาพสุดท้ายที่แต่งชุดทหารคือส.อ.ภาณุวัฒน์ ผลเศษรฐี อายุ 24 ปีสังกัดกองพันสารวัตรทหารกรุงเทพฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นลูกของนายสุเทพทั้งสิ้นส่วนภรรยาได้เลิกรากันไปกว่า 6 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตามนายสุเทพ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังในระหว่างที่จอดรถ ขายไอศครีมอยู่ภายในวัดโขมงหัก ว่าตนมีความภาคภูมิใจในตัวลูกทั้ง 3 คนมาก ตนซึ่งมีฐานะยากจนเร่ขายไอศครีมมากกว่า 20 ปี ลูกทั้ง 3 คนเป็นคนที่เรียนดีมาก เอาใจใส่ในการเรียนดี จึงตั้งใจที่จะมานะบากบั่นส่งลูกทั้งสามคนให้เล่าเรียนสูงๆ ซึ่งอาชีพตนมีอยู่อาชีพเดียวก็คือเป็นพ่อค้าขายไอศครีมไปตามสถานที่ต่างๆซึ่ง แต่ก่อนนั้นเป็นช่วงที่ขายดีมากได้กำไรวันละกว่า 2 พันบาททุกวันตนได้เก็บหอมรอมริบ เอาไว้เพื่อส่งเสียลูกทั้ง 3 คนได้เล่าเรียนกันกันจบและได้ ทำงานเป็นข้าราชการทุกคน ก่อนหน้านี้ ลูกๆ เคยขอร้องให้ตนหยุดขายไอศกรีม เนื่องจากว่าเห็นตนอายุมากแล้ว แต่ตนก็อดที่จะออกมาเร่ขายไม่ได้ ทั้งนี้ลูกๆ ได้ส่งเงินมาให้ใช้โดยพี่น้องได้แบ่งปันส่งมาคนละ 5 พันบาท รวมแล้วตกเดือนละ 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งตนก็ได้เก็บเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆส่วนหนึ่งฝากเข้าบัญชีธนาคารเอาไว้

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของนายสุเทพ(พ่อค้าขายไอศครีม) มีลักษณะเป็นห้องแถว ด้านหน้าซึ่งเป็นประตูเหล็กนายสุเทพยังได้ติดป้ายไวนิลที่มีรูปลูกชายและลูกสาว ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในอิริบทต่างๆเมื่อเข้าไปในบ้านพบว่า ยังมีตู้เย็นเก่า 3 ใบตั้งเรียงรายอยู่ติดกัน ใบที่ 1 ด้านบนของตู้เย็นจะมีอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นของลูกคนโต ส่วนใบที่ 2 ลุงสุเทพแจ้งว่าเป็นของลูกสาวซึ่งเป็นทนายความ แต่ยังไม่มีสิ่งของที่บ่งบอกถึงการเป็นทนายความของลูกสาวมีเพียงแต่ภาพถ่ายของลูกลูกชายที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งวางอยู่บนตู้เย็น ตู้เย็นใบที่ 3 ด้านบนตู้เย็นจะมีอุปกรณ์สนามของทหารบก ซึ่งประกอบไปด้วยกระติกน้ำ เข็มขัดสนาม และหมวกไบเล่ โดยทั้งหมดเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อาชีพของลูกทั้ง 3 คน นายสุเทพยังกล่าวว่าตนได้สั่งทำรูปภาพป้ายไวนิล ของลูกทั้ง 3 คนเอาไว้แล้ว เพื่อที่จะเอามาติดด้านหน้าของตู้เย็นของแต่ละคน เมื่อถามว่าเพราะเหตุใดจึงทำ และมีความคิดแบบนี้ นายสุเทพกล่าว อย่างภาคภูมิใจว่า“ตนจะเอาไว้นอนดูเล่นมีความสุขดี”




(สัมฯ) นายสุเทพ ผลเศรษฐี (พ่อค้าขายไอศครีม) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า“ ด้วยความตั้งใจแล้วลูกก็เรียนดี ช่วงนั้นหาเงินในคล่อง ค้าขายดีมากแต่ก็หวุดหวิดจวนตัวมาโดยตลอด แต่ก็สู้มาโดยตลอดด้วยการขายไอศครีมอย่างเดียวกว่า 20 ปีไม่เคยทำอาชีพอื่นไหน ยอมรับเมื่อก่อนขายดีมาก ต้นทำอาชีพนี้ตั้งแต่ลูกอยู่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย ซึ่งรายได้ตอนนั้นอยู่ที่ 3 พันถึง 4 พันบาท แต่ช่วงนี้ขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ลูกชายคนโต รับราชการเป็นเจ้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน อยู่ที่จังหวัดตาก ส่วนลูกสาวเป็นทนายความ ปัจจุบันทำงานอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ส่วนคนสุดท้ายเป็นสารวัตรทหารอยู่ที่กรุงเทพฯ ตนยอมรับว่าภาคภูมิใจในตัวลูกมาก(สีหน้าเหมือนจะร้องไห้) ที่ลูกทั้ง 3 คน เป็นเด็กดีมีงานทำมีหน้ามีตาเป็นข้าราชการทุกคน ต้นยอมรับว่าได้ดั่งใจตามแผนที่ตนวางไว้ ส่วนตู้เย็นทั้งสามใบตนจะเอาข้าวของเครื่องใช้ของแต่ละคน มาวางไว้บนหลังตู้เย็นซึ่งเป็นสัญลักษณ์ข้าวของเครื่องใช้ของแต่ละคนในอาชีพที่ทำ ซึ่งเป็นความสุขของตนเอง ลูกๆเคยบอกให้ตนเลิกขายไอศครีม ตนก็เลยทดลองเลิกแต่เลิกได้แค่ 13 วันแต่จากนั้นมาตนก็ ไปเอารถไอศครีมมาขายอีกจนถึงทุกวันนี้ ส่วนตนอยากจะบอกกับคนที่กำลังท้อแท้ และกำลังส่งลูกเรียนว่า อันดับแรกต้องอยู่ที่เราคิดก่อนเราต้องคิดนอกกรอบ เราอย่าไปคิดเหมือนคนอื่น ถ้าเราคิดเหมือนคนอื่นก็จะเหมือนเขานั่นแหละ เรามีความรู้ความสามารถอะไรให้เอาออกมาใช้เลย ทำจากที่เราคิดแล้วมันจะได้เอง แต่ทั้งนี้ต้องประกอบกันหลายอย่างทั้งใจ และทั้งดวง ถ้ามันมาเพียบพร้อมมันก็ได้“หนึ่งแบบอย่างที่ดีสำหรับทุกท่านที่ท้อแท้ขอเป็นกำลังใจให้ไปถึงที่ฝันแล้วจะพบความสำเร็จอย่าง คุณลุงสุเทพ ผลเศรษฐี”




